[Portalista] use case การใช้งานร่วมกับ Microsoft Entra ID และ Google Workspace เพื่อยกระดับความปลอดภัยในออฟฟิศ

โพสเมื่อ 24/11/2025 17:19 | อัพเดท 24/11/2025 17:29

ในยุคที่การทำงานองค์กรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งความต้องการด้านความปลอดภัย (Security) และการจัดการผู้ใช้งานจำนวนมาก (User Management) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญ การบริหารระบบ Wi-Fi ภายในออฟฟิศจึงไม่ใช่แค่ “ปล่อยรหัสผ่านให้พนักงาน” อีกต่อไป แต่ต้องเป็นระบบที่ ปลอดภัย ยืดหยุ่น และควบคุมได้

บทความนี้คือ Use-case ตัวอย่างของการนำ Portalista มาทำงานร่วมกับ Identity Provider อย่าง Microsoft Entra ID (Azure) และ Google Workspace
เพื่อใช้เป็นระบบ Authentication ผ่าน Captive Portal สำหรับองค์กร

รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับออฟฟิศยุคใหม่ที่ต้องการระบบ Wi-Fi ที่

• ไม่ต้องจัดการ User อีกต่อไป

หนึ่งในปัญหาคลาสสิกของการให้พนักงานเชื่อมต่อ Wi-Fi คือ

• ต้องสร้าง username/password

• ต้องลบ user เมื่อพนักงานลาออก

• ต้องรีเซ็ตรหัสผ่านเมื่อพนักงานลืม

• Guest ที่เป็นพนักงาน outsource ก็ต้องมี account เพิ่มอีก

แต่เมื่อ Portalista เชื่อมกับ Microsoft Entra ID หรือ Google Workspace แล้ว
ระบบทั้งหมดจะอิงกับบัญชีพนักงานที่มีอยู่บน Cloud ขององค์กรทันที

 

 

• เฉพาะผู้ใช้ภายใน Domain/Organization เท่านั้นที่เข้าได้จริง

ระบบ Captive Portal แบบทั่วไปมักเปิดช่องให้ใครก็ได้เข้ามาลองกรอกข้อมูล
แต่การใช้ Identity Provider แบบองค์กรทำให้ เฉพาะพนักงานที่มีบัญชีใน Tenant เท่านั้นที่ล็อกอินได้

• ปิดความเสี่ยง “พนักงานเก่า” ใช้ Wi-Fi แอบเชื่อมต่อ

• ปลอดภัยกว่าการใช้ Password ที่แชร์กันทั้งบริษัท

 

• ได้ระบบความปลอดภัยระดับองค์กรทันที (2FA, MFA, Condition Access)

บัญชี Entra ID และบัญชี Google Workspace มี Security เหนือกว่าระบบล็อกอินทั่วไป เช่น

• 2FA / MFA

• Condition Access (เช็กอุปกรณ์, สถานที่, ความเสี่ยง)

• การตรวจสอบความเสี่ยงของบัญชี

• ระบบตรวจจับ Anomaly

 

เมื่อ Portalista ใช้ Authentication ผ่าน Cloud Identity ระบบทั้งหมดจะทำงานร่วมกันทันที

โดยที่องค์กรจะได้ Security เทียบเท่าการเข้าระบบ ERP หรือ Email สำหรับการใช้งาน Wi-Fi ในทันทีนั่นเอง


RELATED ARTICLES