ในยุคที่การทำงานองค์กรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งความต้องการด้านความปลอดภัย (Security) และการจัดการผู้ใช้งานจำนวนมาก (User Management) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญ การบริหารระบบ Wi-Fi ภายในออฟฟิศจึงไม่ใช่แค่ “ปล่อยรหัสผ่านให้พนักงาน” อีกต่อไป แต่ต้องเป็นระบบที่ ปลอดภัย ยืดหยุ่น และควบคุมได้
บทความนี้คือ Use-case ตัวอย่างของการนำ Portalista มาทำงานร่วมกับ Identity Provider อย่าง Microsoft Entra ID (Azure) และ Google Workspace
เพื่อใช้เป็นระบบ Authentication ผ่าน Captive Portal สำหรับองค์กร
/ad-1.png)
รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับออฟฟิศยุคใหม่ที่ต้องการระบบ Wi-Fi ที่
• ไม่ต้องจัดการ User อีกต่อไป
หนึ่งในปัญหาคลาสสิกของการให้พนักงานเชื่อมต่อ Wi-Fi คือ
• ต้องสร้าง username/password
• ต้องลบ user เมื่อพนักงานลาออก
• ต้องรีเซ็ตรหัสผ่านเมื่อพนักงานลืม
• Guest ที่เป็นพนักงาน outsource ก็ต้องมี account เพิ่มอีก
แต่เมื่อ Portalista เชื่อมกับ Microsoft Entra ID หรือ Google Workspace แล้ว
ระบบทั้งหมดจะอิงกับบัญชีพนักงานที่มีอยู่บน Cloud ขององค์กรทันที
/ad-2.png)
• เฉพาะผู้ใช้ภายใน Domain/Organization เท่านั้นที่เข้าได้จริง
ระบบ Captive Portal แบบทั่วไปมักเปิดช่องให้ใครก็ได้เข้ามาลองกรอกข้อมูล
แต่การใช้ Identity Provider แบบองค์กรทำให้ เฉพาะพนักงานที่มีบัญชีใน Tenant เท่านั้นที่ล็อกอินได้
• ปิดความเสี่ยง “พนักงานเก่า” ใช้ Wi-Fi แอบเชื่อมต่อ
• ปลอดภัยกว่าการใช้ Password ที่แชร์กันทั้งบริษัท
/ad-3.png)
/ad-4x.png)
• ได้ระบบความปลอดภัยระดับองค์กรทันที (2FA, MFA, Condition Access)
บัญชี Entra ID และบัญชี Google Workspace มี Security เหนือกว่าระบบล็อกอินทั่วไป เช่น
• 2FA / MFA
• Condition Access (เช็กอุปกรณ์, สถานที่, ความเสี่ยง)
• การตรวจสอบความเสี่ยงของบัญชี
• ระบบตรวจจับ Anomaly
เมื่อ Portalista ใช้ Authentication ผ่าน Cloud Identity ระบบทั้งหมดจะทำงานร่วมกันทันที
โดยที่องค์กรจะได้ Security เทียบเท่าการเข้าระบบ ERP หรือ Email สำหรับการใช้งาน Wi-Fi ในทันทีนั่นเอง