ในระบบป้องกันอัคคีภัยสมัยใหม่ การตรวจจับเปลวไฟที่รวดเร็วและแม่นยำถือเป็นหัวใจสำคัญ
Hikvision นำเสนอเทคโนโลยี IR Flame Detection ที่ยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น
โดยใช้เซ็นเซอร์ Multi‑band Mid‑IR ซึ่งสามารถแยกแยะไฟจริงออกจากแหล่งความร้อนหรือแสงรบกวนได้อย่างแม่นยำ
ทำไมต้อง Mid‑IR (4.3 µm + 5.1 µm + 3.9 µm)?
เมื่อเกิดการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอน (Carbon‑based combustion)
เปลวไฟจะปล่อยพลังงานรังสีออกมาในหลายช่วงคลื่น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ:
ยอดพีคที่ 4.3 µm
เกิดจากการสั่นพ้อง (Resonance) ของก๊าซ CO และ CO₂
ซึ่งถือเป็น Signature เฉพาะของเปลวไฟจริง
การใช้ 5.1 µm และ 3.9 µm เป็น Reference Band
ทำให้ระบบสามารถกรองสัญญาณรบกวน เช่น แสงแดด ความร้อนจากเครื่องจักร
หรือแสงสะท้อนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์คือ กล้องสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่าเป็น ไฟจริง (Flame)
ไม่ใช่เพียงแหล่งความร้อนทั่วไป
พลังของ Multispectral + AI Imaging Technology
Fusion Camera ซีรีส์ HF‑VR343, HF‑VR344, HF‑VH343 และ HF‑VT344
ไม่ได้ใช้แค่ Mid‑IR เท่านั้น แต่ยังรวม Thermal Imaging และ Multispectral Sensing หลายช่วงคลื่น
ร่วมกับ AI Imaging Technology ที่ประมวลผลภาพแบบ Real‑time เพื่อ:
ตรวจจับ Flame และ Smoke ด้วยภาพ (Image‑based detection)
ลดจำนวนการแจ้งเตือนผิดพลาด (False Alarm)
ทำงานได้ทั้งในที่มืด ควันหนา หรือสภาพแสงซับซ้อน
ทำไมเทคโนโลยีนี้สำคัญ
เทคโนโลยี IR Flame Detection และ Thermal Imaging
ถูกออกแบบมาสำหรับสถานที่ที่ต้องการมาตรการความปลอดภัยสูง เช่น
โรงงานอุตสาหกรรม, โกดังเก็บวัตถุไวไฟ, อาคารสูง, ศูนย์ข้อมูล (Data Center)
และสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเพลิงไหม้
สรุป
Hikvision Fusion Camera – HF‑VR343, HF‑VR344, HF‑VH343, HF‑VT344
ผสานพลังของ Multi‑band Mid‑IR Sensor, Thermal Imaging และ AI Imaging Technology
ทำให้สามารถตรวจจับไฟได้รวดเร็ว แม่นยำ และลดการเตือนผิดพลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
นี่คือเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสำหรับการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินในยุคใหม่