การตั้งค่าใหม่ ที่มีมาให้ล่าสุดของ EnGenius Cloud ทั้งกลุ่ม AP Indoor และกลุ่ม AP Outdoor คือ Fast Handover (หรือที่หลายๆ ท่านจะเรียกว่า Roaming)
การตั้งค่า สามารถเข้าผ่าน เมนู Access Point -> Radio -> หัวข้อ Fast Handover (RSSI Threshold) เพื่อเริ่มการตั้งค่า
เมื่อกดที่ปุ่ม RSSI Threshold จะแสดงตัวเลือก โดยแต่ละการตั้งค่า มีความแตกต่างกัน เมื่อผู้ใช้งานเลื่อนเมาส์ ไปชี้ที่ ? จะแสดงคำอธิบายของการใช้งานต่างๆ เพือให้กำหนดค่าได้ง่ายยิ่งขึ้นดังนี้
Forced Disconnect Threshold
"Sets a threshold for triggering fast handover when the connected client’s signal falls below this level. If the connected client’s signal drops below this threshold, the AP will forcefully disconnect it, encouraging the client to connect to an AP with a stronger signal."
ซึ่งสามารถแปลตามตรงได้ว่า "ตั้งค่าระดับในการส่งสัญญาณให้ทำการ Handover เมื่อระดับสัญญาณของอุปกรณ์ผู้ใช้งานต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ AP จะทำการ “ตัดการเชื่อมต่อ” เพื่อให้อุปกรณ์ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปเชื่อมต่อกับ AP ที่สัญญาณดีกว่า"
เป็นอีกวิธีการที่ใช้แก้ปัญหา Sticky Client เชื่อมต่อไม่ปล่อยแม้จะย้ายตำแหน่งไปใกล้ AP ตัวอื่นที่อยู่ไกลออกจาก AP เดิม
Probe Request Threshold
"Sets the minimum RSSI threshold for filtering probes requests. Only devices with a probe signal strength above this threshold will be recognized and processed by the AP."
ซึ่งสามารถแปลตามตรงได้ว่า "ตั้งค่าระดับสัญญาณขั้นต่ำที่ใช้คัดกรองการร้องขอ Probe จากอุปกรณ์ผู้ใช้งาน ให้เฉพาะอุปกรณ์ที่มีระดับสัญญาณของ Probe เกินกว่าค่าที่ตั้งไว้ได้รับการดำเนินการที่ AP"
Association Request Threshold
"Sets the minimum RSSI threshold for a client’s initial association request. Only client that meet or exceed this signal strength will be allowed to connect to the AP."
ซึ่งสามารถแปลตามตรงได้ว่า "ตั้งค่าระดับสัญญาณขั้นต่ำที่อุปกรณ์ผู้ใช้เริ่มขอทำการเชื่อมต่อ เฉพาะอุปกรณ์ผู้ใช้ที่ค่าเท่ากับหรือมากกว่าค่าที่ตั้งไว้จะได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อ AP ได้"
แต่ละตัวเลือก เลือกได้ตั้งแต่ [0] – [-94] **ไม่แนะนำให้ทดสอบ/ใช้ช่วง [0] – [-50] เนื่องจากเป็นช่วงที่สัญญาณดีมาก หากเลือกใช้ช่วงระดับสัญญาณนี้ อุปกรณ์ผู้ใช้งานอาจจะไม่สามารถเชื่อมต่อ AP ได้เลย
นอกจากนี้ใน กลุ่ม Outdoor AP มีการเพิ่ม - Disable RTS/CTS เพื่อให้สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมดังนี้
"Disabling RTS/CTS can reduce additional signaling overhead and latency, thereby increasing data transmission efficiency, especially in environments with strong signals and minimal interference, such as in directional antenna."
ซึ่งสามารถแปลตามตรงได้ว่า "การปิด RTS/CTS จะช่วยลด Overhead และ Latency ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูล เน้นที่ระดับสัญญาณการเชื่อมต่อต้องดีมากและมีการรบกวนต่ำ อย่างการใช้สายอากาศแบบทิศทางเชื่อมต่อกัน เป็นต้น"
โดย RTS/CTS ย่อมาจาก Request-to-send/Clear-to-send คืออุปกรณ์ทำการ ประกาศ RTS ว่าจะขอส่งข้อมูล ถ้าสัญญาณว่าง จะมีการส่ง CTS กลับมาและเริ่มทำการรับส่งข้อมูลจนกระทั่งส่ง ACK (Acknowledgement) คือจบการส่งข้อมูล และอุปกรณ์อื่นเริ่มกระบวนการเดียวกันต่อไป
(ภาพตัวอย่าง RTS/CTS mechanism จาก CWNA study guide)
สำหรับท่านที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ 0-2940-2070 กด 1