การเลือกใช้โซลูชั่น AI สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ และตรวจจับการใส่หน้ากาก และการทำ Access Control

โพสเมื่อ 24/06/2020 11:24 | อัพเดท 03/07/2020 16:50

จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มาตรการที่สำคัญอย่างนึง ในการต่อสู้กับการระบาดของโรค สำหรับทุกๆสถานที่นั่นก็คือการวัดอุณหภูมิและการใส่หน้ากากอนามัย ก่อนอนุญาติให้เข้าพื้นที่ต่างๆ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า  ปัจจุบันเทคโนโลยีการตรวจจับอุณหภูมิด้วยเทคโนโลยี AI ได้แสดงศักยภาพอย่างชัดเจน เพราะเป็นระบบที่ไม่มีการสัมผัส (Touchless) สามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำกว่า รวดเร็วกว่า และลดความผิดพลาดอันเกิดจากการทำงานของมนุษย์ได้ ด้วยการผสานกันระหว่างเทคโนโลยี Face Recognition (AI) และระบบตรวจจับความร้อนด้วยกล้อง Infrared...

ซึ่งโซลูชั่นประเภทนี้ได้ถูกพัฒนาออกมาหลายรูปแบบให้เลือกใช้ในรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสถานที่ ที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ของสถานที่ติดตั้ง ความหนาแน่นของของผู้คนที่ต้องการคัดกรอง ความสามารถในการสอบประวัติย้อนหลัง การแจ้งเตือนด้วยวิธีต่างๆ

รวมไปถึงหากนำไปใช้งานในอาคารสำนักงาน หรือสถานที่งาน บางโซลูชั่นก็จะมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบ Access Control ในการเปิดปิดประตู ลิฟท์ การลงเวลาทำงาน ​(Time Attendance) รวมไปถึงการลงทะเบียนก่อนเข้าอาคาร พร้อมตรวจจับอุณหภูมิและการสวมใส่หน้าการอนามัยด้วยหรือไม่

ซึ่งแต่ละโซลูชั่นก็มีความสามารถแตกต่างกันไป ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความสามารถขั้นสูงในการ Integrate กับระบบอื่นๆ เป็นต้น

โดยระบบแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ

Type 1 : Multi-face Detection Camera (Megvii Ming Ji Mini)

รวดเร็ว สแกนได้ทีละหลายคน แม่นยำด้วย Black Body สำหรับพื้นที่หนาแน่นสูง

ระบบประเภทนี้จะออกแบบมาให้ใช้กับพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูง ต้องการความรวดเร็วในการคัดกรอง โดยระบบจำเป็นต้องมี AI Algorithm ระดับสูงและระบบประมวลผลสูง เพื่อให้สามารถตรวจจับอุณหภูมิพร้อมกับทำ Face Recognition ได้อย่างรวดเร็ว โดยระบบนี้ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับอุณหภูมิที่แม่นยำขึ้นเมื่อมี Blackbody Calibration 

ระบบนี้มีความสามารถในการใช้เป็นตัวบันทึกเวลาทำงาน (Time Attendance) แต่อย่างไรก็ตามไม่เหมาะกับการนำเอาไปใช้งานเพื่อเป็น Access Control เพื่อเข้างานเพื่อเปิดปิดประตู เพราะจะไม่เหมาะกับการะบุบุคคลทีละคน ถ้าต้องการทำเช่นนั้นแนะนำ Type2 จะดีกว่าครับ

ระบบนี้จึงเหมาะกับสถานที่อย่างเช่นโรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ รวมไปถึงสถานที่ราชการต่างๆ เป็นต้น

Type 2 : Pad 1 : 1 

ระบบตรวจจับใบหน้า(Face Recogntion) ประเภท PAD ก่อนหน้าที่จะมีความต้องการเรื่องการตรวจจับอุณหภูมิ เป็นระบบที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำ Access Control เพื่อเปิดปิดประตู และลงเวลาทำงาน (Time Attendance) แบบ 1:1 เป็นหลัก ระยะหลังเพิ่งมีการพัฒนาเอา IR Thermal Camera Module มาติดตั้งเพิ่ม เพื่อตรวจสอบทั้งใบหน้า อุณหภูมิ และตรวจจับการใส่หน้ากาก ซึ่

NVK มีให้เลือกสองโซลูชั่นนั่นก็คือ

1. Megvii Koala PAD + Temperature Dectection Module

แม่นยำ รวดเร็ว ยืดหยุ่น เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้ เหมาะสำหรับองค์กร

ระบบ Megvii Koala Platform ถือเป็น Solution ที่ได้รับการทดสอบและยอมรับจากตลาดโลกแล้วว่าเป็น Solution ที่มีความรวดเร็ว และมีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดโซลูชั่นหนึ่งในโลก นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการ Integrate เข้ากับระบบอื่นๆ ผ่าน API ได้อย่างสมบูณณ์แบบ จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก เพราะสามารถรองรับฐานข้อมูลได้ถึง 200,000 ใบหน้า เมื่อนำเอา Temperature Detection Module มาติดตั้งเพิ่มก็จะมีความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิและตรวจจับการใส่หน้ากากได้ทันที โดยยังคงความเร็วในการทำงานไว้เช่นเดิม

2. Ruision Temperature Detection and Face Recognition PAD

ติดต้งง่าย ราคาประหยัด มีโมดูล 4G

Ruision PAD เป็นโซลูชั่นที่ออกแบบมาสำหรับการติดตั้งแบบ Stand-alone ติดตั้งง่าย ไม่ต้องมี Server และความสามารถในการทำ Access Control ได้เช่นกัน แต่จะไม่มี Time Attendance ที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ Koala มี และยังมีความเร็วในระดับที่ทำงานได้ แม้ไม่รวดเร็วเท่า Koala ซึ่ง Ruision เหมาะสมสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่มีความหนาแน่นมากนัก ไม่ต้องการการฐานข้อมูลใบหน้าจำนวนมาก และ Ruision และยังมี 4G  Module เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนไปยัง Application ได้ในกรณีที่ไม่มีเครือข่าย LAN เป็นต้น Ruision ยังมีราคาประหยัด เหมาะสำหรับการติดตั้งที่ร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้าปลีกทั่วไป หรือแม้แต่สำนักงานขนาดกลางและเป็นต้น

Comparison Table

เรามีตารางเปรียบเทียบโซลูชั่น 3 แบบทั้งจาก Megvii Ming Ji Mini ที่เป็นแบบ  Multi-face เดินผ่านได้เลย Megvii Koala Pad (ที่ออกแบบมาสำหรับงาน Access Control โดยเฉพาะมาก่อน) + Temperature Module ที่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิและหน้ากากไปบนระบบเดิม และ Ruision PAD น้องใหม่ราคาประหยัด มาให้ลองพิจารณาดูครับ ว่าองค์กรของท่าน เหมาะสมกับอุปกรณ์ประเภทไหน

ปัจจัยหลักๆในการเลือกใช้โซลูชั่นตรวจจับอุณหภูมิและการสวมใส่หน้ากากอนามัย AI เราพอสรุปได้ดังนี้

Black Body Calibration : ระบบตรวจสอบอุณหภูมิห้องเทียบกับสีดำสนิท เพื่อช่วยให้ตรวจอุณหภูมิบุคคลได้อย่างแม่นยำสูงสุด

Temperature Accuracy : ค่าความแม่นยำในการตรวจจับอุณหภูมิ จะมีค่าความผิดพลาดได้ ±0.1 - 1 องศาเซลเซียส (ปืนยิงหน้าผากสามารถมีความคาดเคลื่นได้ถึง 1-5 องศา) https://www.grainger.com/content/qt-370-infrared-thermometers

AI Algorithm : มีการใช้ AI ในการตรวจจับใบหน้า แยกแยะสิ่งของกับบุคคล ระบบ AI ในการช่วยคำนวณ Core Body Temperature และช่วยตรวจจับการใส่หน้ากาก

Detection Distance : ระยะห่างของบุคคลกับกล้องตรวจจับ มีความแตกต่างกันไปต้ังแต่ 0.5  - 5 เมตร

Measurement Speed : ความเร็วในการตรวจจับใบหน้าและอุณหภูมิ บางระบบทำได้ถึง 80 คนต่อนาทีโดยการเดินผ่านกล้อง สำหรับอุปกรณ์แบบ PAD ก็ถูกออกแบบให้สแกนใบหน้าทีละคน (1:1) ซึ่งก็เหมาะสำหรับการตรวจจับอุณหภูมิพร้อมใช้เปิดปิดประตูได้ดีกว่า

Number of Measurement : ความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิ บางระบบสามารถทำได้ 3-8 คนต่อวินาที สำหรับแบบ PAD จะทำงานได้ช้ากว่าเพราะต้อง Scan ทีละคน ต่อการสแกน 1 คนต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 วินาที

Recognition Speed : ความเร็วในการตรวจจับใบหน้าและเทียบกับฐานข้อมูล ระบบที่มีราคาสูงมักมีพลังและ Algorithm ในการตรวจจับขั้นสูงที่สามารถ Recognize ได้ด้วยความเร็วต่ำกว่า 1 วินาที

Display Output : ความสามารถในการเชื่อมต่อจอแสดงผล

Event Alarm : มีการแจ้งเตือนกรณีที่อุณหภูมิเกินที่กำหนด หรือไม่สวมหน้ากาก

เสียงแจ้งเตือนภาษาไทย : บางระบบสามารถแจ้งเตือนเป็นภาษาไทย และสามารถอัดเสียงเพิ่มเองได้

Liveness Detection : ระบบป้องการการหลอกระบบ Face Recognition ด้วยการใช้ภาพถ่ายหรือวีดีโอ

Access Control Integration : ความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบ Access Control ด้วยส่วนมากจะทำได้ดีบนอุปกรณ์ที่เป็นประเภท PAD 1:1

Time Attendance : ระบบคำนวณเวลาทำงาน บางระบบมี Application ที่ HR สามารถนำไปใช้ได้ทันที และมี API ในการส่งรายงานไปโดยอัตโนมัติ บางระบบต้อง export เป็นไฟล์แล้ว HR ต้องไปทำการปรับปรุงเองเป็นต้น

Face Database : จำนวนฐานข้อมูลใบหน้า พนักงาน บุคคลต้องห้าม แขก VIP หรือ Blacklist

Historical Log : จำนวนรายงานที่สามารถเก็บบันทึกไว้ในฐานข้อมูล

Mobile App : บางระบบสามารถมี Mobile App แจ้งเตือนเจ้าของร้าน ว่ามีผู้ที่อุณหภูมิเกินเข้ามาในสถานที่ได้ บางระบบมีความสามารถในการพัฒนา Application เพิ่มเติมโดยผ่าน API เป็นต้น

VDO การเลือกใช้โซลูชั่น AI สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ และตรวจจับการใส่หน้ากาก และการทำ Access Control 

 


RELATED ARTICLES

    RELATED PRODUCTS