และอย่าลืมว่า แขกที่มาพักต่อห้องนั้น ไม่ได้ถือมาคนละ 1 Device อย่างน้อยก็พกกันมาคนละ 2 เครื่อง ฉะนั้นก็จะส่งผลให้มีความหนาแน่นของ User ต่อ AP สูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ AP ที่รองรับการใช้งานเฉพาะย่าน 2.4GHz (Single Radio AP) ที่มี Channel ให้ใช้งานจำกัด ( 3 Channel พร้อมๆกันเท่านั้น) ย่อมเริ่มจะไม่สามารถรองรับการใช้งานที่ความเร็วต่อ Device สูงๆ
รวมถึงไม่สามารถรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มี Device หนาแน่นขึ้นได้อีกต่อไป (นี่ยังไม่นับบริเวณห้องประชุมหรือห้องสัมนานะครับหากติดเฉพาะ Single Radio AP คงไม่สามารถใช้งานได้แน่นอน)
ที่นี้เรามาดูเหตุผลที่ต้องอัพเกรดไปใช้ Dual Radio AP กันดีกว่า
1. มี Channel มากกว่า ลดปัญหาสัญญาณรบกวน ความเร็วสูงขึ้น รองรับ user ได้มากกว่า
สำหรับ Dual Radio AP ในระดับมืออาชีพนั้น ก็มักจะมีความสามารถที่เรียกว่า Band Steering ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ AP จะบังคับให้เครื่องลูกข่ายที่รองรับความถี่ย่าน 5GHz ไปเกาะกับ AP ที่สัญญาณย่าน 5GHz ที่มักจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าก่อน ซึ่งก็จะช่วยกระจาย Traffic ไปยังย่าน 5GHz ที่ทำงานได้ดีกว่ามากขึ้นนั่นเอง ฉะนั้นหากจะเลือกใช้ Dual Radio AP แล้วหล่ะก็ มองหา AP มีมีความสามารถนี้ไว้ด้วย
4. เครื่องลูกข่ายวันนี้รองรับเกือบหมดแล้ว
จากประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้มีโอกาสดูสถิติของการใช้งาน WiFi สาธารณะในพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างในสนามบิน และห้างสรรพสินค้าพบว่า ทุกวันนี้ เครื่องลูกข่ายที่เข้าใช้งานเครือข่าย WiFi สามารถรองรับ AP ที่ส่งสัญญาณย่าน 5GHz สูงถึง 70% นั่นหมายความว่า วันนี้ผู้ใช้ได้ใช้เครื่องลูกข่ายที่มีความพร้อม ต่อเครือข่าย WiFi ที่ใช้ AP แบบ Dual Radio อย่างเต็มที่แล้วนั่นเอง
5. ราคาไม่แตกต่างจาก Single Radio AP แล้ว
ชั่วโมงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการอัพเกรดไปใช้ Dual Radio AP เพราะอย่างน้อยแบรนด์ยอดนิยมอย่าง EnGenius ก็ลดราคา Dual Radio ลงจากเดิมกว่า 40% โดยมีราคาสูงกว่า Single AP เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหากท่านต้องการออกแบบเครือข่ายให้รองรับอนาคตอีกซักหน่อย ก็จ่ายเพิ่มสำหรับ AP ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดได้เลยทีเดียว